Niantic ผู้พัฒนา Pokemon GO แบนผู้เล่นที่ใช้ช่องโหว่พิเศษสำหรับการทำฟาร์ม XL Candies การหาผลประโยชน์ดังที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผู้เล่น Pokemon GO สามารถฟาร์ม XL Candies ได้หลายร้อยลูกโดยใช้ความอุตสาหะเพียงนิดหน่อย แต่ว่า Niantic กำลังล้มล้างคนที่เอารัดเอาเปรียบอย่างมาก Niantic เปิดตัว Pokemon GO ในปี 2559 แล้วก็เกมดังที่กล่าวมาแล้วมีการปรับปรุงอย่างยิ่งในตอนเจ็ดปีที่ล่วงเลยไป ส่วนเสริมปัจจุบันของ Pokemon GO เป็นฟีพบร์ Routes สตูดิโอเปิดตัวเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางเป็นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อผู้เล่นใช้ขณะตรวจ Niantic ตั้งค่าเล็กน้อย ขณะที่บางรายการกำหนดโดยผู้ช่วยเหลือผลักดันวิธีขายหรือผู้เล่นทั่วๆไป ผู้เล่นจะได้รับรางวัลจากการเอาอย่างทางให้เสร็จเพื่อกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการสำรวจ เมื่อเร็วๆนี้ ผู้เล่นได้ศึกษาและทำการค้นพบวิธีการใช้กลไก Routes ในทางที่ไม่ถูกเพื่อทำฟาร์ม XL Candies ของ Pokemon GO โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความเพียรพยายามอะไรก็แล้วแต่ผู้เล่นใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสะสม XL Candies หลายร้อยชิ้นโดยปลดปล่อยให้แอป Pokemon GO ดำเนินงานค้าง โดยมี YouTuber คนหนึ่งอ้างถึงว่าได้รับ XL Candies มากยิ่งกว่า 100 ชิ้นต่อชั่วโมง โชคร้ายสำหรับผู้เล่น Pokemon GO ความคาดหวังจะใช้ประโยชน์จาก Niantic ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหาผลประโยชน์นี้ และก็กำลังแบนผู้เล่นที่ใช้มัน การแบนพวกนี้ชั่วครั้งชั่วคราวรวมทั้งมีแถลงการณ์ว่ามีช่วงเวลาตั้งแต่ 30 วันถึง 230 วัน แม้กระนั้น เนื้อความแบนของ Niantic เตือนว่าผู้ที่เป็นคนทำความผิดซ้ำบางทีอาจถูกแบนจากเกมอย่างคงทน ถึงแม้การแบนบางทีอาจมองร้ายแรง แต่ว่าก็ยากที่จะโต้เถียงว่าผู้ใช้กำลังคดโกง โดยเฉพาะเพราะว่าจำต้องใช้แอปของมือที่สามหลายแอป โดยเบื้องต้นแล้ว ผู้เล่น Pokemon GO ใช้แอพด้านนอกเพื่อหลอก GPS ในโทรศัพท์ให้มีความคิดว่าพวกเขาทำทางเสร็จแล้ว โดยธรรมดา การควบคุมความเร็วจะปกป้องไม่ให้ผู้เล่นค้นหาทางเร็วเกินความจำเป็น ความบกพร่องทำให้ไม่ทำงาน ทำให้พวกเขาสามารถทำทางให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยทันที แล้วต่อจากนั้นผู้เล่นจะใช้ตัวคลิกอัตโนมัติเพื่อรีสตาร์ททางอัตโนมัติ ปลดปล่อยให้พวกเขาจัดการให้เสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ความเร็ว CPU ของโทรศัพท์จะอนุญาต ข่าวสารดังที่กล่าวมาแล้วมิได้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดปฏิกิริยาร้ายแรงจากชุมชน Pokemon GO โดยหลายท่านมีความคิดว่านี่เป็นทุนของการหลอกลวง ผู้ใช้รายหนึ่งชี้แนะว่าบางทีอาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญผ่านการดริฟท์ของ GPS